วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ศตวรรษที่ 21

การใช้ชีวิตให้อยู่รอดในศตวรรษที่ 21


ยุคนี้สมัยนี้ค่าครองชีพของคนในสังคมดูจะสูงมากกว่าปกติทำให้หลายครอบครัวมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ไม่สมดุลกับรายรับ ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่จะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ผลการสำรวจของนิด้าเกี่ยวกับรายรับและรายจ่ายของพนักงานบริษัทจำนวน 2,500 คน พบว่า 43 เปอร์เซ็นต์ มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ และใช้วิธีการกู้เงิน ยืมเงิน โดยใช้บัตรเครดิตกดเงินสดล่วงหน้ามาใช้ พร้อมกับส่งคืนในอัตราขั้นต่ำ ทำให้เกิดหนี้สะสม นอกจากนี้ยังนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปจำนำ เพื่อนำเงินมาผันให้พอรายจ่ายต่อเดือน
เพราะปัญหาสังคมในช่วงนี้ของคนไทยทั้งประเทศ ส่วนหนึ่ง คือมีปัญหาเรื่องรายจ่ายไม่สมดุลกับรายรับ จึงได้สำรวจเรื่องสภาวะเศรษฐกิจส่วนบุคคล ครอบครัว และการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 30.6 ระบุความพอเพียงทำให้นึกถึงการเก็บออม ร้อยละ 22.9 ระบุนึกถึงการใช้จ่ายอย่างประหยัด มีน้อยใช้น้อย ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ร้อยละ15.3 ระบุนึกถึงการไม่เป็นหนี้ ร้อยละ 9.7 ระบุนึกถึงการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท มีหลักประกันชีวิต และ ร้อยละ 4.6 ระบุนึกถึงการค้าขาย การทำมาหากิน การประกอบอาชีพแบบไม่แสวงหากำไร จึงสรุปได้ว่าคนส่วนใหญ่ในการสำรวจครั้งนี้ เข้าใจว่าถ้าใช้ชีวิตพอเพียง จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทั้งในระดับครัวเรือนและระดับประเทศได้





การใช้ชีวิต 6 ระดับ

ให้อยู่รอดในศตวรรษที่ 21

1. การใช้ชีวิตตามความหวาดกลัว คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในระดับนี้ การใช้ชีวิตในระดับนี้ การตัดสินใจในชีวิตไม่สนใจเรื่องถูกต้อง แต่สนใจในเรื่องถูกใจ คิดแต่ความหวาดกลัว เช่น กลัวลูกน้องไม่รัก กลัวเพื่อนไม่คบ

2. การใช้ชีวิตตามกติกา ในระดับสังคมบ้านเมือง เราใช้กติการในการดำเนินชีวิตมาก กติกาหลักๆ ที่เราใช้ มักจะเกี่ยวข้องอยู่กับ เรื่องสองสามเรื่องคือ "เงิน-เศรษฐศาสตร์" เราจะคำนึงถึงความคุ้ม กำไรและมักใช้สิ่งนี้ เป็นเหตุผลในการตัดสินใจ "วิชา" การตัดสินใจทำสิ่งใด อาศัยว่าได้เรียนมาอย่างไรก็ทำไปตามนั้น "กฎหมาย" ชีวิตเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกฎหมาย ดำเนินชีวิตไปตามกฎเกณฑ์ ที่กฎหมายกำหนดไว้

3. การใช้ชีวิตตามสำนึกที่ดี ส่วนใหญ่แล้วเราใช้ชีวิตในระดับสำนึกที่ดี แต่บางทีเราก็ท้อแท้ว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี เพราะเราทำดีแล้ว เราหวังว่าเราควรจะได้อะไรตอบแทน ที่ไม่ได้ก็ผิดหวัง แต่เมื่อเราได้พบเห็นคนที่เขาทุกข์ยาก ลำบากกว่าเรา เราเองก็อาจจะรู้สึกว่า โชคดีเท่าไรแล้ว ที่เราได้ทำดี ได้ใช้ชีวิตที่ดี

4. การใช้ชีวิตตามความจริง คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในระดับนี้ เป็นคนที่อยู่กับความจริงที่มันเป็นจริงๆ คาดหวังให้ตรงกับความเป็นจริง ความจริงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องค้นหา เพียงแต่อย่าใส่ความไม่จริงลงไป ถ้าเราใช้ชีวิตอย่าง ไม่เข้าใจความจริง เราก็จะใช้ชีวิตไปตามแรงจูงใจ ด้วยอุดมคติ แรงจูงใจด้วยความคาดหวัง ซึ่งเสี่ยงต่อความพลาดผิดหวัง ท้อแท้ และเสียใจ

5. การใช้ชีวิตด้วยความว่าง เมื่อเราเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่มันตกลงตรงหน้าเรา เห็นว่าสิ่งทั้งหลายมันเปลี่ยนแปลง และมีวันตาย เห็นความจริงว่า มันสุขๆ ทุกข์ๆ เมื่อเจอความทุก เราก็สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ คนที่ใช้ชีวิตในระดับนี้ จะทำใจได้ว่าปัญหาเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นธรรมชาติที่ชีวิตต้องเจอ

6. ชีวิตที่หลุดพ้น เป็นชีวิตที่แข็งแรง ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของความอยาก ความต้องการใดๆ ที่เกินจำเป็น มองเห็นชีวิตตามความเป็นจริง เลือกใช้ชีวิตแต่ในสิ่งที่เป็นสาระ

“การดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบัน
เราจะต้องรู้จักตนเองและรู้จักผู้อื่น ถึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้”

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552


จากการดูหนังเรื่อง Eagle Eye แผนสังหารพลิกนรก

หนังตัวอย่าง คลิกที่นี้

ดูหนังวัน จันทร์ ที่ 29 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2552


เวลา 14 นาฬิกา 30 นาที ถึง 17 นาฬิกา 30 นาที



เนื้อเรื่องโดยย่อ



เจอร์รี่ ชอว์ และเรเชล ฮอลโลแมน คือหนุ่มสาวที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับถูกดึงให้ต้องมาเจอกันด้วยเสียงโทรศัพท์ลึกลับจากผู้หญิงคนหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยพบ ผู้หญิงคนนี้ที่คุกคามทั้งชีวิตและครอบครัวของสองหนุ่มสาว บีบให้เจอร์รี่และเรเชลต้องเผชิญกับสถานการณ์อันตรายที่เสี่ยงตายมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ใช้กันในชีวิตประจำวันเพื่อคอยตามรอยและบงการทุกความเคลื่อนไหวของพวกเขา เมื่อสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น หนุ่มสาวธรรมดาสองคนนี้กลับกลายเป็นผู้ร้ายที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องการตัวที่สุด พวกเขาจึงต้องร่วมมือกันเพื่อหาความจริงให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และขณะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอยู่นั้น พวกเขาได้กลายเป็นเบี้ยของศัตรูที่พวกเขาไม่เคยเห็นหน้า ผู้ดูจะมีอำนาจอย่างมหาศาลในการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำ


ตัวระครในเรื่อง


1. เจอร์รี่ ชอว์
2. เรเชล ฮอลโลแมน
3. แซม
4. ทอม
5. อีธาน
6. แกรนท์



ความรู้สึกจากการดูหนังเรื่อง แผนสังหารพลิกนรก


รู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ ตั้งแต่ไตเติ้ลจนถึงเนื้อเรื่อง
ทำให้รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ไม่น่เบื่อ ได้รู้ถึงการวางแผน
มีความสลับซับซ้อน ชวนให้ต้องติดตาม ไม่อยากพลาดแม้แต่ฉากเดียว
ทำให้เราได้ลุ้นตลอดเลยว่าฉากต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
และชวนให้เราติดตามและอยากทราบว่าผลสุดท้ายของแผนนี้ต้องการอะไร

บทสรุปของเรื่อง


คือ คอมพิวเตอร์สมองกลต้องการที่จะทำลายล้างบุคคลที่ร่วมในแผนการ
ในการนำเครื่องบินยิ่งถล่มผู้คนในครั้งนั้น โดยใช้พระเอกและนางเอก
เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นในครั้งนี้ โดยใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมแผนการทั้งหมด
โดยสามารถทำได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดระยะเวลา การวางแผนในการเดินทาง
และการติดต่อสื่อสารต่างๆ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
เพราะพระเอกเสีนสละที่จะหยุดแผนการนี้ ทำให้ผลสุดท้ายพระเอกจึงเป็นฮีโร่

ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง


- ก่อนจะทำอะไรให้เราต้องมีการวางแผนร่วงหน้าแต่แผนการนั้นต้องเป็นแผนการที่ดี
- ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
- ควรใช้ความรู้ที่มีในทางที่ถูกต้อง เช่น การใช้คอมพิวเตอร์




ข้อมูลเพิ่มเติม

ของหนังเรื่อง Eagle Eye แผนสังหารพลิกนรก


Eagle Eye ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวความตื่นเต้นซึ่งต้องแข่งขันกับเวลาเรื่องนี้ ทำให้สามทหารเสือ อันประกอบด้วยนักแสดงหนุ่มมาแรง ไชอา ลาบัฟ, ผู้กำกับ ดีเจ คารูโซ่ และผู้อำนวยการสร้างบริหาร สตีเว่น สปีลเบิร์ก ได้กลับมาร่วมงานกันเป็นครั้งแรกนับแต่ที่เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์ฮิตเรื่อง Disturbia ใน Eagle Eye
ดรีมเวิร์กส์ พิคเจอร์สภูมิใจเสนอผลงานการสร้างของเคิร์ตซ์แมน/ ออร์ซี่ โปรดักชั่น จากงานกำกับของดีเจ คารูโซ่ เรื่อง Eagle Eye นำแสดงโดยไชอา ลาบัฟ, มิเชลล์ โมนาแกน, โรซาริโอ ดอว์สัน, ไมเคิล ชิกลิส, แอนโธนี่ แม็คคี และบิลลี่ บ๊อบ ธอร์นตัน ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย ดีเจ คารูโซ่, คิดสร้างเรื่องโดย แดน แม็คเดอร์ม็อตต์ เขียนบทภาพยนตร์โดยจอห์น เกลนน์ และเทรวิส อดัม ไรต์ กับฮิลลารี่ ซีตซ์ และแดน แม็คเดอร์ม็อตต์
ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยอเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน, โรแบร์โต้ ออร์ซี่ และแพทริค โครว์ลี่ย์ ผู้อำนวยการสร้างบริหาร คือ สตีเว่น สปีลเบิร์ก และเอ๊ดเวิร์ด แอล แม็คดอนเนลล์, ผู้กำกับภาพ ได้แก่ อาเรียสซ์ วอลสกี้, เอเอสซี, โปรดักชั่นดีไซเนอร์ ได้แก่ ทอม แซนเดอร์ส ภาพยนตร์เรื่องนี้ลำดับภาพโดยจิม เพจ, ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ได้แก่ แมรี่-ซิลวี่ เดอโว, วิชวลเอฟเฟ็กต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ ได้แก่ จิม ไรกีล, ดนตรีประกอบเป็นฝีมือการประพันธ์ของไบรอัน เทย์เลอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการจัดเรตให้เป็นภาพยนตร์เรต PG-13 อันเนื่องจากฉากแอ็คชั่นที่ตึงเครียด ความรุนแรง และเรื่องของภาษา